Speedtest True ไม่ตรงกับแพ็กเกจ สาเหตุที่เป็นไปได้และทำอย่างไร

Speedtest True ไม่ตรงกับแพ็กเกจ สาเหตุที่เป็นไปได้และทำอย่างไร

หลายคนที่ใช้เน็ตทรู พอลองเช็คความเร็วแล้วเจอผลลัพธ์ไม่ตรงกับแพ็กเกจที่สมัครไว้ มักจะรู้สึกกังวลเหมือนกัน ว่าคุ้มไหม เน็ตมีปัญหาหรือเปล่า หรือว่าโดนปรับความเร็วแบบไม่รู้ตัว จากประสบการณ์ที่เคยเจอปัญหานี้ บอกได้เลยว่า “ผล Speedtest ไม่ตรงแพ็ก” ไม่ได้แปลว่าเน็ตเสียเสมอไป แต่มีหลายปัจจัยที่ทำให้ผลคลาดเคลื่อน วันนี้ขอแชร์มุมมองแบบเข้าใจง่าย พร้อมแนวทางแก้ไขที่ทำได้จริง

สาเหตุที่ Speedtest True วัดความเร็วไม่ตรงแพ็กเกจ

อย่างแรกที่ควรรู้คือ ความเร็วที่ผู้ให้บริการโฆษณามักเป็น “ความเร็วสูงสุด” ไม่ใช่ความเร็วคงที่ หมายความว่าในชีวิตจริง ความเร็วอาจขึ้นลงตามสภาพแวดล้อมการใช้งาน

สาเหตุที่พบบ่อยมีดังนี้

  • ใช้งานผ่าน WiFi ที่สัญญาณไม่เสถียร เช่น อยู่ไกล Router หรือมีผนังกั้นหลายชั้น
  • มีอุปกรณ์หลายเครื่องใช้งานพร้อมกัน ทำให้แบนด์วิดท์ถูกแบ่ง
  • Router รุ่นเก่า หรือไม่รองรับความเร็วตามแพ็กเกจ
  • เลือกเซิร์ฟเวอร์ในการทดสอบที่อยู่ไกล ส่งผลให้ค่าหน่วงสูงและความเร็วตก
  • ระบบเครือข่ายในพื้นที่มีผู้ใช้งานหนาแน่นในช่วงเวลานั้น

บางครั้งตัวแพ็กเกจที่สมัครก็มีเงื่อนไข FUP หรือการจำกัดความเร็วหลังใช้งานเกินโควตา โดยเฉพาะแพ็กมือถือ ซึ่งหลายคนอาจมองข้ามตรงนี้

ผล Speedtest ไม่ตรงแพ็ก แบบไหนถือว่าปกติ

จากที่เคยทดสอบมาหลายครั้ง ถ้าความเร็วที่วัดได้อยู่ประมาณ 70 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของแพ็กเกจ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีการใช้งานหนาแน่น เช่น ช่วงเย็นถึงดึก

ตัวอย่างเช่น ถ้าแพ็กเกจ 500 Mbps แล้ววัดได้ประมาณ 350–450 Mbps นี่ถือว่าอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้ แต่ถ้าความเร็วตกลงมาเหลือ 50–100 Mbps แบบต่อเนื่อง แบบนี้ควรเริ่มตรวจสอบอย่างจริงจัง

วิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อ Speedtest True ไม่ตรงแพ็ก

ถ้าเจอปัญหานี้ Speedtest True แนะนำให้ลองแก้ไขเองก่อนติดต่อศูนย์บริการ เพราะหลายกรณีแก้ได้ง่ายๆ ที่บ้านเลย

ขั้นตอนที่แนะนำคือ

  • รีสตาร์ท Router และ ONU หรือ Modem โดยปิดเครื่องประมาณ 2–3 นาทีแล้วเปิดใหม
  • ทดสอบผ่านสาย LAN แทน WiFi เพื่อดูว่าปัญหามาจากสัญญาณไร้สายหรือไม่
  • ปิดแอปหรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่ในเวลาเดียวกัน
  • ย้าย Router ให้อยู่ในตำแหน่งที่โล่งมากขึ้น ลดกำแพงหรือสิ่งกีดขวาง
  • ลองเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ใน Speedtest ให้เลือกเซิร์ฟใกล้พื้นที่มากที่สุด

จากประสบการณ์ส่วนตัว แค่เปลี่ยนจาก WiFi มาทดสอบผ่านสาย LAN ความเร็วเพิ่มขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลย

เมื่อไหร่ควรติดต่อ True

ถ้าลองแก้ไขเองแล้ว แต่ยังเจอปัญหาเหล่านี้ แนะนำให้ติดต่อ True ทันที

  • ความเร็ววัดได้ต่ำกว่าแพ็กเกจเกินครึ่งอย่างต่อเนื่อง
  • Ping สูงมากจนใช้งานไม่ได้ เช่น เล่นเกมหรือประชุมกระตุกตลอด
  • เกิดปัญหาหลุดบ่อย ไฟสัญญาณที่ Router กระพริบผิดปกติ
  • วัดความเร็วผ่านสาย LAN แล้วยังต่ำผิดปกติ

เวลาติดต่อ ควรถ่ายรูปหรือแคปหน้าผล Speedtest เก็บไว้เป็นหลักฐาน จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น

เทคนิคเล็กๆ ที่ช่วยให้ได้ผล Speedtest ใกล้เคียงความจริงมากขึ้น

ถ้าอยากให้ผลทดสอบแม่นยำขึ้น แนะนำให้ทดสอบในช่วงที่ไม่มีใครใช้งานเน็ตในบ้าน และทดสอบหลายรอบในช่วงเวลาต่างกัน เช่น เช้า บ่าย และกลางคืน รวมถึงควรใช้เว็บไซต์หรือแอปทดสอบที่เชื่อถือได้ และใช้เครื่องที่รองรับความเร็วสูงจริงๆ ไม่อย่างนั้นอุปกรณ์จะเป็นคอขวดแทน

จากประสบการณ์ตรง ปัญหา Speedtest True ไม่ตรงกับแพ็ก ส่วนใหญ่แก้ได้ ไม่ได้น่ากังวลอย่างที่คิด ขอแค่รู้วิธีตรวจสอบอย่างถูกต้อง ก็จะเข้าใจการใช้งานเน็ตของตัวเองมากขึ้น